
The Rim Resort Chiangmai โรงแรม เดอะ ริม เชียงใหม่ รีสอร์ทหรู สไตล์ล้านนา ออกแบบได้สวยงามเน้นความเป็นบูทีคโฮเต็ลจากฝีมือการออกแบบของสถาปนิกชุดเดียวกันกับที่สร้าง “หอคำหลวง” ในอุทยานหลวงราชพกฤกษ์ ดังนั้นรูปแบบของตัวอาคารและการตกแต่งภายในจึงมีรูปแบบให้คล้ายกับเรือนรับรองในสมัยยุคล้านนาโบราณ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองติดคูเมือง ไกล้ฝั่งประตูสวนดอก ไกล้แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของเมืองเชียงใหม่ มาชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมของโรงแรมกันเลยดีกว่า
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาพักในโรงแรมแห่งนี้ เป็นการเดินทางมาเชียงใหม่ที่บังเอิญมากๆ ทั้งในเรื่องของโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน สำหรับโรงแรมนั้นโดยได้รับการสนับสนุนจาก GM ของโรงแรมอ่าวนาง ภูพิมาน กระบี่ ท่านได้ซื้อมาในงานไทยเที่ยวไทย แต่ไม่มีได้โอกาศมา เวาเชอร์กำลังจะหมดอายุ เลยได้รับความอนุเคราะห์จากท่านมา 3 วัน 2 คืนพร้อมอาหารเช้า ส่วนตั๋วเครื่องบินได้มาจาก Traveloka ในงานเปิดตัวของบริษัทไม่รู้จะไปใช้ที่ใหนเลยประจวบเหมาะพอดิบพอดีเลยได้ใช้กันทีเดียวเลย
ตอนจองห้องก็ติดต่อไปทาง butler@therimchiangmai.com พร้อมส่งสำเนาเวาเชอร์ไป ไม่นานก็มีอีเมล์ตอบรับจากทางโรงแรม ตอนแรกคิดว่าน่าจะใช้ไม่ทันซะแล้วเพราะช่วงนี้เป็นช่วงไฮท์แต่ยังโชคดีที่ทางโรงแรมจัดหาห้องได้ ไม่รีรอรีบไปจองตั๋วเครื่องบินอย่างไว ครั้งนี้เดินทางไปกับการบินไทย และทางกลับแอร์เอเชีย เพราะขาไปการบินไทยราคาถูกกว่า ขากลับราคาแอร์เอเชียร์ถูก ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดีทั้งการจองโรงแรมและจองตั๋วเครื่องบิน บินมาถึงโรงแรมอย่างสวัสดิภาพ พอมาถึงสนามบินเลือกใช้บริการแท็กซี่ของสนามบินราคา 160 บาท
มาถึงโรงแรมประมาณ 11 โมงนิด ๆ ทำการเช็คอิน พนักงงานต้อนรับดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้ความร่วมมือดี แต่ห้องยังไม่พร้อม เลยฝากกระเป๋าไว้กับโรงแรมแล้วก็จัดแจงไปเที่ยวสถานที่ไกล้เคียง ส่วนของการตกแต่งในโซนนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีทีเดียว ใช้ไม้ต้นใหญ่มากมาทำเป็นเสา และใช้ไม้แท้มาทำเป็นพื้นและพนัง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็ใช้ไม้สัก ขัดเงา ด้านข้างทางซ้ายมือมีโซนพักผ่อน ส่วนด้านขวามือเป็นโซนอ่านหนังสือ และโซนขายของที่ระลึก
เดินเที่ยวสักพักรู้สึกเหนื่อย (เป็นเพราะอายุเยอะเลยไม่ค่อยอยากจะเดินหรือไม่ก็คงเป็นเพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น) คงได้เวลาที่ห้องพักน่าจะพร้อม เลยอยากกลับมานอน เพราะอากาศดี เย็นสบายในช่วงนี้ มาถึงก็ได้ห้องพอดี เหมาะเลย แต่ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปห้องก่อนที่ที่นอนจะยับเสียก่อน ได้ห้อง 216 บริเวณชั้น 2 ติดสระว่ายน้ำ เป็นห้องดีลักซ์ เตียงเดี่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ทีวีจอแบนเลือกชมได้หลายช่อง เบาะหนานุ่มดี ไม่แข็งทื่อและไม่อ่อนจนยุบ นอนสบาย ทางโรงแรมยังจัดเตรียมรองเท้าแตะอีก 2 คู่ด้วยนะ เป็นรองเท้าที่สานจากวัสดุธรรมชาติ
พอเห็นห้องน้ำเท่านั้นแหละ เกิดอยากแช่อ่างเลย ที่นี่มีทั้งอ่างและเรนเชาเวอร์นะ อยากใช้แบบใหนก็เลือกใช้ได้ตามสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องน้ำมีพร้อมสรรพเลย แปรงสีฟันพร้อมยาสีฟัน หวีผม สำลี คือแบบว่าโรงแรมเอาใจลูกค้าสุด ๆ เลย อีกทั้งยังมีทั้งสบู่อาบน้ำ แชมพู ครีมนวด สบู่ล้างมือ ที่สำคัญยังมีเกลือและใยบวบเอาไว้ขัดตัวสบายตัวมากเลย สดชื่นขึ้นมาทันที ได้อารมณ์กระปรี้กระเปร่า
ออกจากห้องน้ำแล้วหนาวนิด ๆ เลยต้มน้ำทานชาสักหน่อยเพื่อให้ร่างกายได้อุ่น ๆ ที่นี่มีชา กาแฟ ฟรี เป็นชาเกรดดีเลย แพ็กเกจจิ้งสวยงาม ส่วนกาแฟเป็นกาแฟ 3 In 1 สำเร็จรูป ชอบชามาก ๆ กลิ่นหอมดี
ออกมานั่งจิบชาบริเวณระเบียง มองเห็นวิวของสระว่ายน้ำ และลูกค้าที่ใช้บริการนวดเท้า กลิ่น หอม ๆ ของน้ำมันนวด ลมเย็นพัดผ่าน จิบชาร้อน ๆ ชิลดีมาก ตอนนี้ก็บ่ายแก่ ๆ แล้วความตั้งใจเดิมยังคงมีอยู่คือ นอน นอนยาวเลย หลายชั่วโมงตื่นมาอีกที่ก็ค่ำแล้วได้เวลาของอาหารเย็นพอดี
ช่วงเย็นพอออกจากห้องมาเพื่อที่จะไปยังห้องอาหารเห็นวิวสวยของสระน้ำเลยจัดแจงถ่ายสักภาพ งามมากเลยอาคารที่เห็นด้านล่างไม่รู้ว่าเป็นส่วนของอะไร แต่ด้านบนเป็นฟิตเนส ลูกค้าของโรงแรมสามารถไปใช้บริการได้ สระว่ายน้ำมีขนาดกลางไม่ใหญ่มาก บรรยากาศช่วงนี้งดงามมาก บริเวณนี้ยังมีส่วนของบาร์ด้วย นั่งเล่น ๆ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ เริ่ดมาก
ห้องอาหาร The Canal (เดอะ คาแนล) เป็นห้องอาหารเดียวของโรงแรม เปิดให้บริการตลอดทั้งวันช่วงเช้าเปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าให้กับลูกค้า ส่วนมื้อเที่ยงและมื้อค่ำมีบริการอาหารจานเดียวอาลาคาร์ทประเภทอาหารยุปโรปและอาหารไทย ใช้วัตถุดิบและส่วนผสมที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยม ผักสด ๆ มาจากโครงการหลวง นอกจากนั้นช่วงบ่าย ๆ ก็โปรโมชั่น Hight Tea นั่งจิบชายามบ่ายพร้อมด้วยวิวงาม ๆ ของคลอง ที่กล่าวมาไม่ได้ลิ้มลอง
สำหรับมื้อค่ำมื้อนี้ได้สั่งมาทานเป็น ฟิชแอนด์ชิป เป็นปลากะพงขาวทอดเหลืองสวยงามไม่อมน้ำมัน ทานคู่กันกับซอสอร่อยมาก ๆ หรืออาจเป็นฤทธิ์ของความหิวก็เป็นได้ แต่รสชาตินี่ถูกปากเลย ส่วนเครื่องดื่มสั่งมาเป็นมะม่วงปั่น แก้วใหญ่มาก เนื้อมะม่วงมาเต็ม ๆ สดชื่นดีแท้
เช้าวันต่อมาเดินรอบ ๆ โรงแรม ก่อนที่เดินเข้าไปทานอาหารเช้า เห็นมุมนี้สวยดีเลยเก็บภาพมาฝาก ใครที่อยากเห็นโรงแรมในมุมมองแบบนี้ลองเดินไปที่ประตูทางเข้าโรงแรมก็จะเห็นบรรยากาศแบบนี้ แอบสังเกตุเห็นว่าที่จอดรถของโรงแรมมีไม่มาก จอดได้เพียง 5-6 คัน ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติ ลูกค้าคนไทยน้อยมาก ทางโรงแรมบอกว่าสถาปัตยกรรมของโรงแรมคล้ายวัดจึงไม่ใช่แนวของคนไทย แต่ต่างชาตินี่ชอบเป็นพิเศษ
อาหารมื้อเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ไลน์อาจไม่ได้เยอะเหมือนโรงแรมเชนใหญ่ ๆ แต่ก็หลากหลายดี เพียงแค่บอกเบอร์ห้องให้กับพนักงานเท่านั้น ส่วนที่นั่งก็เลือกนั่งได้ตามสบาย ทั้งในห้องอาหารเอง และนอกห้องอาหารที่บริเวณระเบียงริมถนนใหญ่ พร้อมวิวงาม ๆ ของคลองก็สวยไปอีกแบบ (มัวแต่สำรวจเพลินเลยไม่ได้ถ่ายไลน์อาหารมา) แต่ละเช้าจะสลับเมนูอาหารไปมา เมนูอาหารประเภทไข่จะอยู่ด้านนอก หรือจะสั่งกับพนักงงานก็ได้เสิร์ฟมาถึงโต๊ะ
วันที่สอง หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกตระเวณเที่ยวตามที่ต่าง ๆ แต่ก่อนออกไปก็นำคีย์การ์ดไปฝากที่แผนกต้อนรับส่วนหน้า พร้อมแจ้งกับพนักงานว่า “ช่วงบ่ายหากห้องใหนที่ลูกค้ายังไม่ได้เช็คอิน หรือว่างจะขออนุญาตไปเยี่ยมชมสักหน่อย” ก็ได้รับการตอบรับมาดี ประมาณบ่าย 3 ก็กลับมาถึงโรงแรม เยี่ยมห้องพักประเภทที่สองคือ ห้องซูพีเรีย เป็นห้องเตียงคู่ การจัดวางคล้ายคลึงกันกับห้องดีลักซ์ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกภายในก็จัดมาครบ พร้อมด้วยโซฟาเดย์เบ็ดนุ่ม ๆ
ห้องถัดมาก็เป็นห้องจูเนียร์ สวีท ซึ่งเป็นห้องที่ดีที่สุดของโรงแรม ซึ่งเป็นห้องมุมกว้างใหญ่ มีแพนทรี่ มีห้องแต่งตัวแยกแบบวอร์ลคอินโคลเซ็ท ห้องนั่งเล่น มีห้องเล็กสำหรับลูก ๆ จากุซซี่ใหญ่แช่สบาย จะมาเป็นครอบครัวก็เหมาะสม หรือจะมาฮันนี่มูนก็เข้ากัน บริเวณด้านนอกมีโซฟาใหญ่ วิวสระน้ำงาม ๆ หรูสุด ๆ เลย
ห้องนั่งเล่นของห้องจูเนียร์สวีท ..ส่วนวันสุดท้ายก็ไม่ได้ไปใหน ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็จัดแจงเช็คเอ้าท์ พร้อมเที่ยวในตัวเมืองอีกสักหน่อยระหว่างรอขึ้นเครื่อง เป็นอันว่าจบของการไปเชียงใหม่ในรอบนี้ หวังว่ารีวิวนี้จะได้ประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่พักสไตลแบบไทยล้านนาแท้ ๆ สวยงามแบบนี้ อยู่ในตัวเมือง การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ง่าย การบริการที่ประทับใจของพนักงาน
จากการที่ได้เข้ามาพักและประสบการณ์ที่โรงแรม เดอะ ริม รีสอร์ท เชียงใหม่ มีดังนี้
สิ่งที่ประทับใจ
- ทำเลที่ตั้งของโรงแรมดี อยู่กลางเมืองเชียงใหม่ การเดินทางสะดวก
- โรงแรมและห้องพัก ทั้งภายในและภายนอกตกแต่งสวยงามมาก
- ห้องพักกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- พนักงงานบริการดี มีความเอาใจใส่ต่อลูกค้า แนะนำที่ท่องเที่ยวได้
สิ่งที่ไม่ประทับใจ
- ที่จอดรถมีน้อย เพียง 5-6 คัน
- ปลั๊กสำหรับเสียบไฟแบบ 3 ตาภายในห้องพักบริเวณหัวเตียงไม่มี อยู่ไกลไปสักหน่อย
- อาหารเช้ามีให้เลือกน้อยไปหน่อยถ้าเทียบกับโรงแรมราคาประมาณนี้
ข้อมูลทั่วไปของ โรงแรม เดอะ ริม เชียงใหม่ The Rim Resort Chiangmai
- สถานที่ตั้ง : 51/2 ถนนอารักษ์ ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
- โทรศัพท์ : 0 5390 3999
- โทรสาร : 0 5390 3998
- อีเมล์ : butler@therimchiangmai.com
- เว็บไซต์ : www.therimchiangmai.com
- เฟสบุ๊ค : www.facebook.com/therimresortchiangmai
- พิกัด : 18.786805,98.978255
[quote]แผนที่ตั้งของ โรงแรมเดอะ ริม เชียงใหม่ (The Rim Resort Chiangmai)[/quote]