
โรงแรม Bangkok Hotel Lotus Sukhumvit ได้จัดเมนูอาหารอินเดียพิเศษในธีม “Coco’s North Indian Concoction” เพื่อมอบให้ลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารอินเดีย ซึ่งมีเมนูอาหารของแถบทางภาคเหนือต้นตำรับมาให้ได้ลิ้มลองทานที่ห้องอาหาร “Coco’s Cafe”
ห้องอาหารตั้งอยู่บริเวณชั้น 9 ของโรงแรม เป็นห้องอาหารหลัก ติดกับสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูสวยงาม นั่งสบาย พนักงานบริการเอาใจใส่ดี ในครั้งนี้เราได้รับการเชิญชวนจากพีอาร์และมาร์เก็ตติ้งของโรงแรม ให้ไปลิ้มลองเมนูอาหารที่ทางโรงแรมได้จัดขึ้น สำหรับ “Palatiallife • พาเลเชี่ยลไลฟ์” ก็ไม่พลาด โดยส่วนตัวแล้วชอบทานอาหารอินเดียอยู่แล้ว จึงตอบรับไปทันที โดยไม่ได้ลังเล
การเดินทางนั้นเราไปด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งสามารถจอดรถได้ที่บริเวณที่จอดรถของโรงแรม ทางขึ้นที่จอดอาจชันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น 9 ของห้องอาหาร สำหรับใครที่เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินไปยังซอยสุขุมวิท33 หรือฝั่งตรงข้ามไดโนเสาร์ปาร์ค เข้าซอยมานิดเดียวก็ถึงโรงแรม บริเวณล๊อบบี้จะมีร้านเบเกอรี่อร่อยๆ หากสนใจก็ลองแวะชิมได้ ถ้าหากอยากให้คุ้มให้มาช่วงบ่ายๆ จะมีบุฟเฟ่ต์ให้ทาน คุ้มแน่นอนกับเบเกอรี่ของที่นี่
หลังจากที่ได้ที่นั่งมาเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงคราวของอาหารกันบ้าง เมนูแรกที่เสิร์ฟมาก็คือ “Papadum” หรือที่รู้จักกันในชื่อ ข้าวเกรียบอินเดีย ซึ่งเป็นอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อยก่อนที่อาหารจานหลักจะนำมาเสิร์ฟ แป้งแผ่นบางกรอบมีรสชาติมันและเค็มนิดหน่อย ทานคู่กันกับช๊อตนี่อย่าง สาระแหน่ มะม่วง เป็นต้น
เมนูต่อมาที่มาเสิร์ฟก็คือ “Crispy Papad Paneer” เป็นเมนูอาหารอาหารทานเล่นอีกจานนึงที่ทางห้องอาหารแนะนำ จานนี้เป็นอาหารประเภทมังสวิรัตน์ ไม่มีเนื้อสัตว์ปนเข้ามา มีแต่คอทเทจชีสปรุงผสมเครื่องเทศ จากผ่านกระบวนการปั้นเป็นก้อน รสชาตินวล เด้งน้อยๆ แต่เล่นลิ้น สามารถทานคู่กันกับช๊อตนี่ต่างๆ ได้เช่นกัน
เสิร์ฟมาอย่างต่อเนื่องด้วยเมนู “Mughlai Malai Seeks” เมนูนี่เป็นเมนูเนื้อสัตว์ คือการนำเอาเนื้อแกะมาบดหยาบค่อนละเอียดแล้วนำไปปรุงด้วยเครื่องเทศนำเข้าจากอินเดีย รสชาติออกนุ่ม ๆ ละมุนลิ้น ไม่มีกลิ่นสาบ ใครที่ว่าอาหารอินเดียเครื่องเทศแรงนี้ขอลบความคิดนั้นไปได้เลย ทานง่าย ทานสบาย
“Lucknovi Paneer Lababdar” เป็นเมนูวิจีทาเรี่ยนอีกหนึ่งเมนู คือการนำเอาคอทเทจชีส ปั้นเป็นก้อน แล้วมาราดด้วยชีสอีกรอบ มีความหนึบของชีส มีความมันของซอสที่ราดอยู่บนตัวคอทเทจชีส รสชาติอาจจะไม่โดดมาก ควงกันไปอย่างพอเหมาะพอเจาะ ทานเล่นๆ ก็ได้ หรือจะทานกับแป้งนานก็เข้ากัน
และสุดท้ายเป็นอาหารจานหลักเลยก็คือ “Nihari Gosht” อาหารจานนี้คืออาหารประเภทแกงแกะนำเข้า เนื้อนุ่มมาก ๆ สามารถทานคู่กันกับข้าวบัสมาติ หรือจะทานกับแป้งนานก็ได้ น้ำแกงเข้มข้นหอมเครื่องเทศอ่อนๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นับได้ว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว
สำหรับใครที่สนใจมาลิ้มลองทานอาหารอินเดีย อยากได้ประสบการณ์ของอาหารใหม่ๆ ก็สามารถมาลิ้มลองได้ที่ห้องอาหาร โคโค่ คาเฟ่ โรงแรม Bangkok Hotel Lotus Sukhumvit บริหารงานโดย AccorHotels. ได้ทุกวันทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 11.30-22.30 น. ราคาอาหารเริ่มต้นเพียง 325 บาท อิ่มคุ้มกันเลยทีเดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องอาหาร จองโต๊ะ และโปรโมชั่นได้ที่เบอร์ 0-2610- 0111 ext.4900 หรือส่งผ่านอีเมล์ได้ที่ marketing@hotellotussukhumvit.com ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของโรงแรมและห้องอาหารผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียได้ที่ https://www.facebook.com/CocosSoi33/