
สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีพื้นที่ไม่มากอาจเล็กกว่าจังหวัดภูเก็ต แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย เรียกว่าเล็กแต่มีเสน่ห์ให้ค้นหา แถมยังอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรามากนัก ใช้เวลาเดินทางไม่นานประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง และที่สำคัญคือสามารถเลือกเดินทางไปได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถไฟ รถยนต์ ล่องเรือเป็นต้น หากมีโอกาศไปเที่ยวละก็ย่านที่เราแนะนำมานี้ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปเที่ยวชม
1. ย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) สิงคโปร์
ย่านนี้เป็นย่านที่อยู่ใจกลางเมืองยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของสิงคโปร์เป็นชุมชนที่คนจีนอาศัยอยู่กว่า 70% ให้อารมณ์เหมือนราวกับว่าอยู่ในเมืองจีนยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ มีความคึกคักและเต็มไปด้วยร้านค้า ถนนคนเดิน ร้านของฝาก ร้านอาหาร รวมไปจนถึงที่พัก โรงแรมขนาดกลาง โรงแรมราคาประหยัดอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมสถานที่ประวัติศาสตร์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมจึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวสิงคโปร์และชาวต่างชาติ
นอกจากร้านรวงต่าง ๆ ให้ได้ช้อปปิ้ง และแหล่งไนท์ไลฟ์อย่างดีแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาสำคัญ ๆ มีทั้งวัด โบสถ์ และมัสยิด ใครไปสิงค์โปร์เป็นต้องไปเช็คอิน ซึ่งเรากำลังจะกล่าวถึงกันดังต่อไปนี้
=> วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) คนไทยรู้จักกันในชื่อว่า “วัดเขี้ยวแก้ว” เป็นวัดทางศาสนาพุทธสำคัญวัดหนึ่งของสิงคโปร์ ติดกับย่านไชน่าทาวน์ มีรูปแบบและสถาปัตยกรรมแบบวัดพุทธของจีนในสมัยราชวงศ์ถัง มีอาคารหลังใหญ่ขนาด 4 ชั้น ใต้ดินอีก 3 ชั้น ไม่รวมชั้นลอยและดาดฟ้า หากจะนับกันจริง ๆ ก็คือมีทั้งหมด 9 ชั้น รูปทรงสวยงาม ตระการตา ทั้งภายนอกและภายใน วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระทันตธาตุ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดนี้ แต่ละชั้นมีสิ่งน่าสนใจแตกต่างกัน
โดยชั้นแรก ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนคือด้านหน้าและด้านหลัง เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ สำหรับการสวดมนต์ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน อีกโซนมีพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ บริเวณกำแพงของวัดมีพระพุทธรูปขนาดเล็กนับร้อยองค์ วางเรียงรายอยู่ ชั้นที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดและร้านขายของฝากที่ระลึก ชั้นที่สามเป็นส่วนของพิธภัณฑ์ มีโบราณวัตถุทางด้านศาสนามาจัดแสดง และโซนที่สี่เป็นโซนไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ ห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายภาพ เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุ หรือ ฟัน ของพระพุทธเจ้า
=> วัดแขกศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple) เป็นวัดฮินดูที่อยู่ในติดกันกับมัสยิดจาเมี๊ยะซูเลีย ย่านไชน่าทาว์น เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1827 โดยชาวอินเดียทางตอนใต้ที่อพยพเข้ามา เพื่ออุทิศให้กับเทพธิดามาริอัมมันต์ (Mariamman) เชื่อว่าเป็นเทพที่มีพลังในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ ตั้งอยู่ฝั่งถนน South Bridge Road เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น มีรายละเอียดของรูปปั้นและการแกะสลักมากมาย ตั้งแต่ด้านนอกบริเวณประตูทางเข้ายันไปจนถึงบริเวณด้านใน โดยเฉพาะเจดีย์ 6 ชั้นที่อยู่บนประตูทางเข้า มีการแกะสลักรูปปั้นเทพและสัตว์ต่าง ๆ ตามนิทานประรำประราของศาสนาฮินดู
=> มัสยิดจาเมี๊ยะซูเลีย เป็นมัสยิดที่เก่าแก่มากที่สุดของสิงคโปร์ อีกแห่งหนึ่ง สถานที่สำคัญทางศาสนาแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับวัดศรีมาริอัมมันต์ บนถนนเซ้าท์บริดจ์ในย่านไชน่าทาวน์ สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1826 โดยชาวมุสลิมซูเลีย อินเดียทมิฬจากฝั่งโครมันเดลทางตอนใต้ของอินเดียที่อพยพเข้ามาในสิคโปร์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีการยืมเอาสถาปัตยกรรมตะวันออกและตะวันตกรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้คงมีการสอนศาสนาอิสลามเป็นภาษาทมิฬอีกด้วย
2. ย่านลิตเติ้ลอินเดีย Little India สิงคโปร์
หากเมื่อได้ไปสิงคโปร์ หนึ่งในเดสติเนชั่นที่น่าสนใจคือ ย่านลิตเติ้ลอินเดีย ย่านนี้เป็นย่านที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มีสีสันของวัฒนธรรมอันรุ่มรวย และแหล่งช้อปปิ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ บ่งบอกถึงความเป็นชุมชนอินเดีย หอมตลบอบอวนไปด้วยร้านค้าขายเครื่องเทศ ร้านเพชร ร้านขายผ้าสาหรี่ ร้านขายดอกไม้และธูป แต่ละร้านจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกัน
สถานที่น่าสนใจบนถนนเซรังกูนตรงใจกลางเมืองของลิตเติ้ลอินเดีย และถนนไกล้เคียงเราจะพบกับวัดฮินดู คือ “วัดศรี วิรามกาลีอัมมัน (Sri Veeramakaliamman Temple)” เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายให้กับเจ้าแม่ศรี วิรามกาลีอัมมัน ผู้ซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ที่ทำลายสิ่งชั่วร้าย เข้ามาบูชาให้ตนมีความรู้สึกปลอดภัย
“บ้านสีสันสดใส หรือ House of Tan Then Niah” บ้านนี้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของลิตเติ้ลอินเดีย มีการทาสีสวยงามวาดลวดลายบนฝาผนัง เป็นบ้านที่อยู่อยู่ในตรอกเล็กๆ ปัจจุบันด้านหน้าของอาคารจัดสร้างเป็นร้านอาหาร แหล่งแฮ้งค์เอ้าท์ยามค่ำคืนอย่างดี ย่านนี้มีบ้านที่มีสีสันสดใสอยู่หลายหลัง สวยงามสะดุดตา จนกลายเป็นจุดแวะถ่ายภาพโดยปริยาย ใครไปสิงคโปร์เป็นต้องแวะ
“มัสยิดอับดุลฆอฟูร (Masjid Abdul Gafoor)” เป็นอีกหนึ่งในมรดกด้านโบราณสถานจากมัสยิด 3 แห่งของสิงคโปร์ มีความเก่าแก่มากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้ว มีความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมแบบ Moors มีจุดเด่นอยู่ที่ด้านบนของประตูทางเข้ามัสยิดคล้ายกับนาฬิกาแดดแกะสลักชื่อของศาสดาทั้ง 25 คนเอาไว้ อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ “ผังตระกูล” ตั้งอยู่ด้านซ้ายของบริเวณสวดมนต์ แผนผังตระกูลแสดงถึงเชื้อสายของศาสดา
“ตลาดถนนคนเดิน” ย่านนี้มีความคึกคักเป็นพิเศษสามารถเดินช้อปได้เพลิดเพลินทั้ง 2 ฝั่นถนนเซรังกูน มีสินค้ามากมาย ข้าวของส่วนใหญ่ในย่านนี้มักจะมีราคาไม่แพง สองข้างทางเราจะได้พบกับบ้านเรือนเปิดเป็นร้านค้าขายของ หรือที่เรียกว่า Shophouse สไตล์โคโลเนี่ยล 2 ชั้นทาสีสดใส
เดินย่ำไปเรื่อย ๆ จะพบกับ “ตลาดเต็กก้าเซ็นเตอร์” เป็นตลาดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในอาคารสีส้มคาดเหลือง จัดแบ่งออกเป็นโซนศูนย์อาหารใครที่อยากลองอาหารอินเดียต้องมาที่นี่ โซนขายของสด ผัก ผลไม้ และโซนขายพวกเสื้อผ้าซึ่งอยู่บริเวณชั้นสองของอาคาร ห้างนี้มีความยาวและใหญ่มากทีเดียวสามารถเดินเริ่มตั้งแต่ถนน Seranggoon Road ยาวขนานไปกับถนน Buffalo Road เลยทีเดียว
“มุสตาฟาเซ็นเตอร์” ห้างนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ขาช้อปคนไทยไม่ควรพลาดห้าง ราคาถูกมาก ซื้อจำนวนเยอะจะคุ้มกว่ามาก มีจำนวนสินค้ากว่าสามแสนชิ้นให้เลือกช้อป เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ เพชรพลอย ทองคำ นาฬิกา น้ำหอม รองเท้า กระเป๋า และอื่น ๆ อีกจิปาถะ เรียกได้ว่าช้อปได้ตั้งแต่ไม้จิ้มฟัน สากกระเบือ ยันเรือรบ
3. ย่านอาหรับสตรีท สิงคโปร์
หลังจากที่ได้กล่าวไปสองย่าน คือไชน่าทาวน์ ที่มีคนจีนอาศัยอยู่จำนวนมาก ย่านลิตเติ้ลอินเดีย ที่มีคนอินเดียอาศัยอยู่โดยรอบ และสุดท้ายมาเที่ยวย่านอาหรับสตรีท ซึ่งเป็นที่เต็มไปด้วยชาวอาหรับและชาวมุสลิม ถนนเส้นนี้มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ส่วนใหญ่แล้วจะมีอาคารบ้านเรือนแบบตึกแถว 2ชั้น สไตล์โคโลเนี่ยล เปิดบ้านเป็น Shophouse ด้านนอกทาสีสดใส
ย่านนี้มีแหล่งท่องเที่ยวตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ อย่าง “ตรอกฮาจิ (Haji Lane)” หรือผู้คนที่นี่เรียกว่าถนนฮัจญี ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิปของชาวสิงคโปร์ มีสินค้าประเภทเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า จากร้านค้าและดีไซเนอร์อิสระของคนรุ่นใหม่ และพรมจากเปอร์เซีย เครื่องหนัง น้ำหอม อัญมนี
“มัสยิดสุลต่าน Masjid Sultan” ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่เก่าแก่และสวยงามที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีโดมทองขนาดใหญ่ตัดกับตัวอาคารสีขาว สร้างขึ้นเมื่อ 200ปีที่แล้ว ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้เป็นศานาสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาของชาวมุสลิมสิงคโปร์ ปูทางเดินด้วยกระเบื้องสวยงาม ประดับด้วยต้นไม้ 2 ข้างทาง และร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ รวมไปจนถึงร้านอาหารพื้นบ้านอีกหลายร้าน
4. ย่านมาริน่า เบย์
เมื่อมาสิงคโปร์ หนึ่งในเดสทิเนชั่นที่นักท่องเที่ยวจะมาคือ ย่านมาริน่า เบย์ ซึ่งเป็นย่านที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายเป็นจุดรวมของแลนด์มาร์กสำคัญๆ ไว้ที่นี่ แนะนำว่าควรมาช่วงบ่าย 3 เป็นต้น บรรยากาศและแสงสีจะดีกว่าช่วงเช้า จากจุดนี้สามาถเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้
“มาริน่า เบย์ แซนด์ Marina Bay Sands” โรงแรมระดับ 5 ดาว อาคารรูปเรือ3ตึกมารวมกัน สูง 55 ชั้น เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ แหล่งศูนย์รวมความบันเทิง คาสิโน ศูนย์การค้า สวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำกลางแจ้ง มีมาตรฐานระดับโลก เป็นจุดชมวิวแบบ 360องศาที่สวยที่สุดจุดหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
“การ์เด้น บาย เดอะเบย์ Garden by The Bay” สวนสาธารณะขนาดใหญ่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด สวนพฤกษชาติแห่งนี้สร้างจากการถมทะเลบนเนื้อที่กว่า 600 ไร่ จัดแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ
1. Bay Center Garden, Bay East Garden และ Bay South Garden และโซนย่อยอีก 8 โซน เช่น Conservatory Flower Dome เรือนกระจกขนาดใหญ่คล้ายรูปหอย มีพันธุ์ไม้นานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งไม้เขตร้อน เขตหนาว เขตร้อนชื้น
2. Conservatory Cloud Forest เรือนกระจกขนาดใหญ่อีกหนึ่งเรือน จัดแสดงพันธุ์ไม้ป่าดิบชื้น มีน้ำตกขนาดใหญ่สูงถึง 35 เมตร ซึ่งเป็นน้ำตกจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีลิฟท์บริการขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของโดม ระหว่างทางจะได้ชมกับสวนทรอปิคอลแนวตั้ง ให้บรรยากาศเหมือนราวกับว่าได้เดินอยู่ตามภูเขาธรรมชาติจริงๆ
3. Supertree Grove โซนจัดแสดงต้นไม้จำลอง 18 ต้น ที่มีความสูง 25-50 เมตร แบ่งออกเป็น2 ชุด ชุดแรกมี 12 ชุด มีทางเดินลอยฟ้าเป็นทางเดินวน และอีก 6ต้นที่เหลือ จัดแสดงสวนแนวตั้งประดับประดาด้วยไฟแสงสีตลอดทั้งคืน หากมีเวลาเหลือสามารถเดินชมโซนต่าง ๆ ได้ แค่ 3 โซนนี้ก็เมื่อยขาจะแย่
“สิงคโปร์ ฟลายเออร์ Singapore Flyer” เป็นหนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เทียบเคียงกับลอนดอนอาย มีความสูงจากพื้นดินถึง 165 เมตร อีกหนึ่งจุดชมวิวรอบเมืองสิงคโปร์แบบพาโนรามา 360 องศาเช่นกัน การขึ้นไปแต่ละครั้งใช้เวลาหมุนประมาณ 30 นาที สามารถเข้าแบบเหมาแคปซูล และแชร์แคปซูล มีเจ้าหน้าที่คอยบริการในการขึ้นแคปซูลของแต่ละรอบ
5. ย่านเกาะเซ็นโตซ่า
เกาะเซ็นโตซ่า เป็นเกาะที่เกิดจากการถมทะเล แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่นี่ประมาณ 20 ล้านคนคน เรียกได้ว่าเป็นเกาะแห่งความสุข เป็นศูนย์รวมของความสนุกสำหรับครอบครัว มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งชายหาดสำหรับการทำกิจกรรมทางทะเล สวนสนุกระดับโลกอย่างยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอะควาเรี่ยม สวนน้ำ แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ และอื่น ๆ อีกมากมาย หากใครไม่ได้ไปที่นี่เหมือนมาถึงสิงคโปร์
บนเกาะเซ็นโตซ่า มีชายหาดด้วยกัน 3 แห่งคือ “หาดปาลาวัน” หรือชายหาดที่มีธีมของโจรสลัดสไตล์แคริบเบี่ยน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ โดดเด่นด้วยสะพานแขวนเชื่อมโยงระหว่างเกาะเล็กๆ ที่อยู่ไกล้ ๆ มีหาดทรายที่ขาวละเอียด ต้นปาล์ม บาร์ริมหาดที่มีชีวิตชีวา เป็นต้น “หาดไซโลโซ” หาดนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเซ็นโตซ่า เป็นจุดปิกนิกยอดนิยมของครอบครัวในวันหยุด นอกจากนั้นแล้วยังเหมาะสำหรับกิจกรรมชายหาดอย่างเล่นกีฬาวอลเล่ย์บอล ฟุตบอลชายหาด และพายเรือแคนู และสุดท้ายคือ “หาดทันจง” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ หาดนี้เป็นหาดที่ดีที่สุดของสิงคโปร์ มีลักษณะหาดเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว หาดทรายสีขาวละเอียด มีต้นปาล์มเขตร้อน สระว่ายน้ำ รวมไปจนถึงเก้าอี้อาบแดด มีความเงียบสงบกว่าหาดอื่น ๆ
และที่ห้ามพลาดเลยคือ “ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ Universal Studios” สวนสนุกชั้นนำระดับโลกจากภาพโลกภาพยนต์ จัดแบ่งออกเป็นโซน ๆ ได้แก่ “Hollywood” เป็นโซนแรกที่เมื่อย่างก้าวเข้ามาพบเจอ สองข้างทางจะพบกับร้านของที่ระลึก ร้านอาหารแต่ละร้านตกแต่งสวยงาม, “New York” เป็นโซนที่เต็มไปด้วยร้านค้า ตกแต่งด้วยป้ายไฟนีออน มีความครึกครื้นของผู้คนที่เดินย่ำ เปรียบเสมือนเดินอยู่ในนิวยอร์คเมืองที่ไม่เคยหลับไหล, “Sci-Fi City” เมืองแห่งอนาคต พบกับเครื่องเล่นต่างๆ มากมาย ยานหมุนอวกาศ รถไฟเหาะมีความสูงเท่าตึก 14 ชั้นหวาดเสียวเป็นต้น, Ancient Egypt ผจญภัยกับการล่าสมบัติในดินแดนอียิปต์โบราณ พบกับสุสานฟาโรห์ต้องคำสาป รถไฟเหาะที่ล่องไปยังดินแดนของนักรบมัมมี่ และตามล่าหาสมบัติในเมืองโบราณด้วยรถจิ๊บ, “Lost World” ดินแดนของยุคไดโนเสาร์ จูราสิคปาร์ค และวอเตอร์เวิล์ด มีเครื่องอย่างปีนหน้าผาหิน เครื่องล่อนไดโนเสาร์นกยักษ์ ล่องแก่งไปในพื้นที่เพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ และสุดท้ายคือการแสดงโชว์ของสตั้นแมน กระโดดหลบระเบิด ขี่เจ็ทสกีในน้ำ มีสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คเหมือนในหนัง, “Far Far Away” ที่นี่จะพบกับเหล่าการ์ตูนในภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่อเชร็ค เจ้ายักษ์เขียว เจ้าหญิงฟิโอน่า เจ้าลาดองกี้เพื่อนซี้ แบบ 4 มิติที่จะพาไปผจญภัยต้านแรงโน้มถ่วงกลางอากาศบนยอดถั่วเพื่อตามหาห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ และสุดท้ายคือโซนของ “Madagascar” ที่นี่จะพบกับเหล่าการ์ตูนยอดฮิตมาคอยต้อนรับตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า ล่องเรือไปในเกาะมาดากัสการ์
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวของสิงคโปร์ที่เราได้แนะนำกันไป หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยสิงคโปร์ นอกจากสถานที่ที่ได้กล่าวไปแล้วยังมีอีกหลายสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างเช่นเที่ยวรอบเมืองด้วยรถเป็ด เที่ยวตามแม่น้ำสิงคโปร์ ชมสวนสัตว์ ชมสวนผีเสื้อและอาณาจักรแมลง การแสดงโชว์ของปลาโลมา การแสดงโชว์ริมหาดยามเย็นเป็นต้น หากได้มาสิงคโปร์เพื่อการท่องเที่ยวแล้วละก็รับรองว่าเที่ยวจนคุ้มอย่างแน่นอน
ข้อแนะนำสำหรับการจองโรงแรมและเที่ยวบินไป สิงคโปร์
- ปัจจุบันมีเอเจนซี่รับจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบินออนไลน์ แต่ละเจ้ามีความโดดเด่นและมีโปรโมชั่นเป็นช่วง แต่ที่เราใช้บริการบ่อยก็คือ Traveloka หากได้จองผ่านแอพจะได้เรทราคาที่ถูกกว่ามาก ดังนั้นควรติดตั้งแอพนี้ไว้บนอุปกรณพกพา สะดวก ค้นหาง่าย เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถทำธุรกรรมได้
- เช็คเรทราคาโรงแรมได้ที่ : https://www.traveloka.com/th-th/hotel/singapore/region/singapore-107493
- เช็คตารางการเดินทางของแต่ละเที่ยวบินได้ที่ : https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Singapore.SIN/1
- อย่าลืมสมัครเป็นสมาชิกด้วยนะ โปรโมชั่นส่วนลดจะส่งไปในอีเมล์ของท่าน มีโค๊ดส่วนลดออกมาบ่อยมาก ประหยัดได้มากเลยทีเดียว ราคาที่เห็นคือราคาที่จ่าย ไม่มีแอบค่าแฝง และที่สำคัญคือจ่ายได้หลายทาง ทั้งเค้านเตอร์เซอร์วิส 7-11 บัตรเครดิต เป็นต้น