วันเดียวเที่ยวได้ หลายๆ คนอาจมีเวลาไม่มาก อยากออกไปเที่ยวต่างจังหวัดไกล้ๆ กรุงเทพฯ เดินทางไม่นาน เที่ยวตลาดชิมขนมนมเนย เที่ยวชมวิถีชุมชนริมสายน้ำ เข้าวัดเข้าวาขอพร เรียนรู้การทำเกษตร ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่ที่ใหนเลยคือ “ฉะเชิงเทรา” นั่นเอง ออกจากบ้านเช้า ๆ กลับเย็นๆ ไม่ต้องค้างคืน
ครั้งนี้ทาง “พาเลเชี่ยลไลฟ” ได้รับการเชิญชวนเพื่อร่วมเดินทางไปกับสมาคมประชาสัมพันธ์โรงแรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการ “One day Trip in Chachoengsao” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ท่องเที่ยวสัมผัสวิถีแห่งสายน้ำบางปะกง เรียนรู้ สู่วิถีพอเพียง” นำโดยเจ้าแม่พีอาร์โรงแรม คุณเอิร์ธ สายสว่าง นายกสมาคมประชาสัมพันธ์โรงแรมแห่งประเทศไทย พร้อมสมาชิกสมาคมฯ, Miss Tourism Queen Thailand 2017 และสื่อมวลชนหลายสาขาร่วมเดินทาง.
กว่า 40 ชีวิตออกเดินทางจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานใหญ่ด้วยรถบัสมุ่งหน้าไปยัง “ตลาดคลองสวน 100 ปี” เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ริมคลองประเวศน์บุรีรมย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัดคือตำบลเทพราช จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลคลองสวน จังหวัดสมุทรปราการ มาที่เดียวเที่ยวได้ 2 จังหวัด ตลาดคลองสวน เป็นตลาดเก่าแก่ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้า ทั้งยังเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญของที่นี่ แม้เวลาจะผ่านไปร้อยปีแต่ผู้คนของที่นี่ยังคงความเป็นชุมชนริมน้ำได้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มีความหลากหลายของวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน และมุสลิมอยู่รวมกันได้อย่างสงบสุข ที่นี่จะได้พบกับร้านอาหารทั้งอาหารไทย อาหารจีน และอาหารมุสลิม ร้านขายของชำ เครื่องใช้ในครัวเรือน ขนมไทย ร้านขายของฝากมากมายให้ได้เลือกซื้อ
หลังจากได้ชิมอาหาร เลือกซื้อสินค้าไปเป็นของฝากให้กับคนสำคัญแล้ว ก็ได้ขึ้นรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปยัง “วัดปากน้ำโจ้โล้” คำว่าโจ้โล้นี้เป็นคำภาษาจีนที่แปลว่า ปลากะพงยักษ์ น้อยคนนักจะรู้ว่าฉะเชิงเทรามีแหล่งเพาะปลากะพงชั้นดี สมัยก่อนในแม่น้ำมีปลากะพงจะชุมมาก วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีสีเหลืองทองทั้งหลัง ภายนอกและภายใน สถาปัตยกรรมสวยงามตระการตา แต่เดิมสถานที่นี้เป็นสำนักสงฆ์ ในอดีตพื้นที่นี้เป็นที่ตั้งทัพของพม่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมีชัยในการรบ สังเกตุเห็นได้ว่าเรือโบราณตั้งไว้ และศาลต่างๆ ตั้งอยู่บริเวณภายนอกวัด
เวลาเที่ยงแล้วท้องใส้หิว เพราะเรื่องเที่ยวและเรื่องกินเป็นเรื่องคู่กัน ดังนั้นทางคณะได้พาเราไปยัง “ร้านอาหารเอกเขนก” ร้านอาหารเด่นดัง ร้านแนะนำของเมืองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกันที่นี่ ร้านนี้ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำบางปะกง บรรยากาศดีมาก ร้านเปิดโล่งกว้างขวาง ยามเย็นนั่งเอกเขนกบริเวณลานริมแม่น้ำ ลมเย็นชิลๆ ส่วนกลางวันอากาศร้อนก็นั่งห้องแอร์ หรือนั่งในเรือนแทน ส่วนรสชาติอาหารขอบอกว่าอร่อยเด็ดทุกเมนู นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้วยังเป็นแหล่งพานักท่องเที่ยวชมแม่น้ำด้วยเจ็ตสกี มีเรือนำเที่ยว
อิ่มหนำสำราญแล้วก็มุ่งหน้าไปเยี่ยมชม “วัดเล่งฮกยี่หรือวัดจีนประชาสโมสร” ศาสนสถานสำคัญของคนจีนอีกหนึ่งแห่ง เป็นวัดจีนพุทธนิกายมหายาน มีความเก่าแก่และมีคุณค่าด้านศิลปกรรมแบบจีน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้นที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเปิดเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา แต่เดิมวัดนี้ชื่อ “วัดเล่งฮกยี่” และได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า ฯ เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดจีนประชาสโมสร” พร้อมป้ายชื่อพระราชทาน บริเวณภายในวิหารมีพระพุทธรูปจีนในลัทธิมหายานประดิษฐานอยู่ 3 องค์คือ พระยูไล้, พระโอนิโทฮุด และพระเอี้ยซือฮุด กันว่าสามารถปกปักรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้
จากวัดเล่งฮกยี่ ข้ามถนนไปยัง “ตลาดบ้านใหม่” ชุมชนอายุกว่า 100 ปี มีร้านอาหารสวยๆ ริมแม่น้ำอยู่หลายร้าน ปกติแล้วตลาดจะเปิดแค่ช่วงวันหยุด คือเสาร์-อาทิตย์ และ นักขัตฤกษ์ เท่านั้น ตลาดเปิดตั้ง 8 โมงจนถึง 5 โมงเย็น (หากใครมาช่วงวันธรรมดาจะมีร้านอยู่สองสามร้านที่เปิดให้บริการอยู่) จุดเด่นของตลาดแห่งนี้คือผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ เป็นชุมชนชาวไทยและจีน ทุกคนอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและกัน ตลอดสองฝั่งริมแม่น้ำบางปะกง จากอดีตถึงปัจจุบันก็นับได้เป็นร้อยกว่าปีแล้ว
เดินดูของเสร็จเรียบร้อยแล้วยามเย็นบ่ายคล้อยก็มุ่งหน้าไปยัง “มินิมูร่าห์ ฟาร์ม” เพื่อไปทำเวิร์คช๊อปในรูปแบบต่าง มีหลากหลายให้เลือกทำ ทั้งปลูกผัก ตัดผักออร์แกนิก ให้นมควาย เป็นต้น ครั้งนี้เราไปทำกิจกรรมการทำไอศกรีม และทำพิซซ่า โดยใช้ผลิตภัณฑ์จากนมควายสายพันธุ์มูร่าห์ แห่งแรกในประเทศไทย ควายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ควายนมนิยมเลี้ยงมากในแถบทวีปยุโรป เช่นบัลแกเรีย อิตาลี่ ให้น้ำนมดีและมีคุณภาพ สามารถนำมาทำเป็นอาหารประเภทแดรี่ได้อย่างดี จากนั้นหลังเวิร์คช๊อปเสร็จเรียบร้อยก่อนเดินทางกลับบ้านได้ร่วมรับประทานอาหารที่นี่ โดยอาหารประเภทสลัดผักจะได้มาจากแปลงผักออแกนิค พาสต้า นม เนยต่างๆ ล้วนแล้วได้มาจากผลิตผลจากฟาร์มเป็นวัตถุดิบหลัก
เป็นอย่างไรกันบ้างกับแคมเปญ “เที่ยวไทยเก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง” จังหวัดที่ไกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงกว่า สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงเหนียวแน่น รักษาวัฒนธรรมมากว่าร้อยปี อาหารหลากหลาย รสชาติอร่อย ฉะเชิงเทรามีอะไรที่ดีอีกเยอะที่ยังคอยให้เราแวะไปเที่ยวชม.
